บริการ - โบท็อกซ์
โบท็อกซ์คืออะไร
โบท็อกซ์ คือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ( Botulinum toxin type A) ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) โบท็อกซ์ถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงาม เพราะตัวสารอยู่ในรูปแบบของโปรตีนมีคุณสมบัติฉีดไปแล้วสามารถจับกับปลายประสาทที่มาควบคุมกล้ามเนื้อ แล้วไปยับยั้งการกระตุ้นกล้ามเนื้อที่เลี้ยงโดยเส้นประสาทบริวเณนั้น ทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราวและช่วยลดริ้วรอยได้
อันตรายจากโบท็อกซ์ปลอม หรือโบท็อกซ์หิ้ว
โบท็อกซ์ที่ถูกนำเข้ามาในประเทศไทยจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
1. โบท็อกซ์แท้ นำเข้าผ่านการลงทะเบียนถูกต้อง มีการควบคุมอุณหภูมิยาขณะขนส่ง ทำให้ยามีประสิทธิภาพคงเดิมเสมือนเพิ่งออกจากห้องแล็บและพร้อมฉีดให้กับคนไข้
2. โบท็อกซ์หิ้ว เป็นโบท็อกซ์แท้ แต่ไม่ได้ลงทะเบียน ไม่สามารถตรวจสอบที่มาได้ ถูกขนส่งด้วยวิธีที่ผิด ทำให้อุณหภูมิที่เก็บรักษาตัวยาไม่คงที่ ยาจะเกิดการเสีย ทำให้เมื่อนำมาฉีดอาจไม่มีคุณภาพ ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ยาวนาน และเสี่ยงเกิดภาวะดื้อโบท็อกซ์ ซึ่งเป็นภาวะที่ยังไม่มีวิธีรักษาได้
3. โบท็อกซ์ปลอม เป็นโบท็อกซ์ที่ปริมาณยูนิตไม่คงที่ ผลข้างเคียงของการใช้โบท็อกซ์ปลอมมีอันตรายที่น่าหวาดหวั่น อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปากเบี้ยว หนังตาตก บริเวณที่ฉีดมีอาการแพ้ แดง เกิดผื่นคันหรือรอยเขียวช้ำ นอกจากนั้นยังเสี่ยงที่จะเกิดการดื้อยาอีกด้วย
โบท็อกซ์ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง
โบท็อกซ์ที่ The Brice Clinic เลือกใช้
เราคัดสรร เลือกใช้โบท็อกซ์แท้ที่มีคุณภาพ โดยโบท็อกซ์ทุกยี่ห้อผ่านการคัดเลือกโดยคุณหมอแบงค์เจ้าของคลินิกเอง
1. Allergan
ผลิตโดยบริษัทอัลเลอร์แกน (Allergan) ประเทศอเมริกา เป็นแบรนด์แรกที่คิดค้นสารโบทูลินั่มเพื่อนำมาใช้ในเรื่องความงาม และยังเป็นแบรนด์แรกที่ได้รับ FDA ในการลดริ้วรอย มีงานวิจัยรับรองยาวนานที่สุด กว่า 3,500 งานวิจัย ตั้งแต่ปีค.ศ. 1989 จึงเป็นยอมรับระดับโลก
2. Xeomin
ผลิตโดยบริษัท MERZ PHARMA ประเทศเยอรมนี Xeomin เป็นโบท็อกโมเลกุลเล็กเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ ทางบริษัทได้มีการพัฒนา XTRACT Technology™ มาใช้ในกระบวนการการผลิต เพื่อกำจัดโปรตีนที่ไม่จำเป็น และด้วยโบท็อกซ์เยอรมัน Xeomin ได้มีการกำจัดโปรตีนที่ไม่จำเป็นออก ทำให้โบท็อกซ์มีความบริสุทธิ์สูง โอกาสการดื้อยาต่ำ และมีงานวิจัยยืนยันว่า ถ้าฉีด Xeomin ในเคสที่มีประวัติดื้อโบท็อกซ์ จะเห็นผลมากกว่าฉีดยี่ห้ออื่น ๆ หากเว้นระยะการฉีดมาแล้ว 2-3 ปี ออกจากโมเลกุลของท็อกซิน ทำให้โมเลกุลของโบท็อกซ์มีขนาดเล็กลง แต่ยังคงประสิทธิภาพในการยับยั้งการทำงานของระบบประสาทได้ดี
3. Aestox
ผลิตโดยบริษัท Hugel Inc. ในประเทศเกาหลีใต้ Aestox จะมีการพัฒนาโครงสร้างโมเลกุลให้เทียบเท่ากับโบท็อกซ์อเมริกา Allergan ทำให้ออกฤทธิ์ใกล้เคียงกับโบท็อกซ์อเมริกา โดยมีการกระจายตัวยาแคบ ออกฤทธิ์แม่นยำตรงจุด เห็นผลไว แต่จะอยู่ได้ไม่นานเท่ากับ Allergan โดยจะมีประสิทธิภาพอยู่ที่ 4-6 เดือน แล้วแต่การใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคล
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์
- หยุดใช้ยากลุ่มกรดวิตามิน A, AHA, สครับหน้า, ขัดหน้า เป็นเวลา 1-2 วันก่อนการฉีด Botox
- หยุดการใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS ได้แก่ Brufen, Naproxen, Motrin วิตามินอี น้ำมันปลา จิงโกะ เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ
- งดแอลกอฮอลล์ 24 ชั่วโมง ก่อนการรักษา
- ถ้ามีประวัติของโรคเริมบริเวณฝีปาก ควรแจ้งแพทย์ก่อนรับการรักษา
การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์
- อย่านวด กด หรือกระทำอันใดที่จะมีผลต่อบริเวณที่รักษา เช่น สวมหมวก สวมหมวกกันน็อค หรือ นวดหน้า
- อย่านอนราบหรือก้มหน้าเป็นเวลา 4 ชั่วโมง
- งดการอยู่ในที่ร้อนเช่น อบซาวน่า ปรุงอาหารหน้าเตาร้อน เป็นเวลา 4 ชั่วโมง
- รอยนูนจากการฉีดจะหายไปเองภายในเวลา 2-3 ชั่วโมง
- งดเว้นการออกกำลังกายอย่างหนักหรือการเล่นโยคะเป็นเวลา 4 ชั่วโมงหลังการรักษา
- งดการทายาหรือเครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเช่น กรดวิตามินเอ AHA วิตามินซีเป็นเวลา 24 ชั่วโมง หลังการรักษา
- พยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ยากระจายตัวเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น
- สามารถใช้น้ำแข็งประคบในกรณีที่มีอาการบวมแดงหรือช้ำได้
- สามารถใช้เครื่องสำอางได้หลังการรักษาด้วยความนุ่มนวลหลีกเลี่ยงการกดถู
- ผู้ป่วยจะเริ่มเห็นผลการรักษาใน 2-7 วัน และเห็นผลการรักษาสูงสุดใน 2 สัปดาห์
- กลับมาพบแพทย์เมื่อมีข้อสงสัยหรือสิ่งผิดปกติใด ๆ